แบบฝึกหัดเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
1. การเรียนการสอนแบบดั้งเดิมไปสู่การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนั้นมีการเปลี่ยนไปอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ การเรียนการสอนแบบดั้งเดิม เป็นการเรียนจากตำราเรียนเพียงอย่างเดียว ครูเป็นคนถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เรียนฝ่ายเดียว ไม่มีการโต้ตอบปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน และระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน เป็นการสอนไปวันๆด้วยเนื้อหาแบบเดิม
การเรียนการสอนโดยใช้ทรัพยากรช่วย เป็นการเรียนการสอนแบบกระตุ้น คือ ครูและนักเรียจะต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เตรียมพร้อมรับเนื้อหาบทเรียนต่างๆ ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มีการจัดกิจกรรมโดยใช้สื่ออุปกรณ์ต่างๆเป็นตัวช่วย เพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน และระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน
การเรียนการสอนโดยมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เป็นการเรียนการสอนที่นำเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สื่อมัลติมีเดียต่างๆมาใช้ มีการจำลองสถานการณ์ สร้างเนื้อหาดิจิตอลที่ให้ผุ้เรียนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เป็นรูปแบบการเรียนการสอนที่น่าสนใจ และส่งเสริมการเรียนรู้ได้ดีมาก
ตอบ การเรียนการสอนแบบดั้งเดิม เป็นการเรียนจากตำราเรียนเพียงอย่างเดียว ครูเป็นคนถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เรียนฝ่ายเดียว ไม่มีการโต้ตอบปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน และระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน เป็นการสอนไปวันๆด้วยเนื้อหาแบบเดิม
การเรียนการสอนโดยใช้ทรัพยากรช่วย เป็นการเรียนการสอนแบบกระตุ้น คือ ครูและนักเรียจะต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เตรียมพร้อมรับเนื้อหาบทเรียนต่างๆ ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มีการจัดกิจกรรมโดยใช้สื่ออุปกรณ์ต่างๆเป็นตัวช่วย เพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน และระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน
การเรียนการสอนโดยมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เป็นการเรียนการสอนที่นำเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สื่อมัลติมีเดียต่างๆมาใช้ มีการจำลองสถานการณ์ สร้างเนื้อหาดิจิตอลที่ให้ผุ้เรียนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เป็นรูปแบบการเรียนการสอนที่น่าสนใจ และส่งเสริมการเรียนรู้ได้ดีมาก
2. รูปแบบการศึกษาที่พึ่งเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งที่มีบุคคลหนึ่งได้กล่าวอย่างสนุกว่า "มีครูอยู่ 3 คน" ครูนั้นได้แก่ใครบ้าง และมีชื่อว่าอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร
ตอบ อากู๋ น้องวิกี้ และอีตูป ซึ่งหมายถึง Google, Wikipedia และ Youtube โปรแกรมทั้ง 3 นี้ เป็นที่พึ่งสำหรับนักเรียนนักศึกษาในปัจจุบันเป็นอย่างมาก รวมทั้งครูอาจารย์ด้วย ซึ่งมีประโยชน์คือ Google สามารถค้นหาข้อมูลที่เราต้องการได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลตัวอักษร รูปภาพ เอกสารต่างๆ แผนที่ แปลภาษา คิดเลข และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีบริการเกี่ยวกับอีเมล์และธุรกิจด้วย Wikipedia กล่าวได้ว่าเป็นสารานุกรมเสรี คือมีบทความต่างๆมากมายหลายเรื่องราวให้เราได้ค้นคว้าหาความรู้ มีทั้งที่เป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาต่างชาติอื่นๆด้วย เป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์มากสำหรับการค้นหาข้อมูลในการเรียนและการทำรายงาน Youtube เป็นโปรแกรมที่รวบรวมวิดีโอไว้เป็นจำนวนมากและทุกประเภท เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ชอบเรียนรู้ด้วยสื่อมัลติมีเดีย และในปัจจุบันนี้ยังถือว่าได้รับความนิยมมาก เพราะครูอาจารย์ได้ใช้วิดีโอเหล่านี้ในการเรียนการสอน เช่น การนำวิดีโอประมวลภาพเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์มาให้นักเรียนได้ดู นักเรียนจะได้เห็นเองกับตาและเข้าใจได้ดีขึ้น การเรียนการสอนก็มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่วนนักเรียน นักศึกษา ก็มีโอกาสได้เข้าไปสืบค้นหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบทเรียน เข้าไปเรียนทบทวนกับวิดีโอที่ครูอาจารย์บางท่านได้บันทึกการเรียนการสอนเป็นวิดีโอเอาไว้ ทำให้เข้าใจในบทเรียนได้ดีขึ้น
ตอบ อากู๋ น้องวิกี้ และอีตูป ซึ่งหมายถึง Google, Wikipedia และ Youtube โปรแกรมทั้ง 3 นี้ เป็นที่พึ่งสำหรับนักเรียนนักศึกษาในปัจจุบันเป็นอย่างมาก รวมทั้งครูอาจารย์ด้วย ซึ่งมีประโยชน์คือ Google สามารถค้นหาข้อมูลที่เราต้องการได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลตัวอักษร รูปภาพ เอกสารต่างๆ แผนที่ แปลภาษา คิดเลข และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีบริการเกี่ยวกับอีเมล์และธุรกิจด้วย Wikipedia กล่าวได้ว่าเป็นสารานุกรมเสรี คือมีบทความต่างๆมากมายหลายเรื่องราวให้เราได้ค้นคว้าหาความรู้ มีทั้งที่เป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาต่างชาติอื่นๆด้วย เป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์มากสำหรับการค้นหาข้อมูลในการเรียนและการทำรายงาน Youtube เป็นโปรแกรมที่รวบรวมวิดีโอไว้เป็นจำนวนมากและทุกประเภท เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ชอบเรียนรู้ด้วยสื่อมัลติมีเดีย และในปัจจุบันนี้ยังถือว่าได้รับความนิยมมาก เพราะครูอาจารย์ได้ใช้วิดีโอเหล่านี้ในการเรียนการสอน เช่น การนำวิดีโอประมวลภาพเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์มาให้นักเรียนได้ดู นักเรียนจะได้เห็นเองกับตาและเข้าใจได้ดีขึ้น การเรียนการสอนก็มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่วนนักเรียน นักศึกษา ก็มีโอกาสได้เข้าไปสืบค้นหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบทเรียน เข้าไปเรียนทบทวนกับวิดีโอที่ครูอาจารย์บางท่านได้บันทึกการเรียนการสอนเป็นวิดีโอเอาไว้ ทำให้เข้าใจในบทเรียนได้ดีขึ้น
3. เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาในลักษณะ e-Learning แบบ Real-Time แตกต่างจาก Non Real-Time อย่างไร
ตอบ ผู้ใช้แบบ Real-Time สามารถโต้ตอบบทสทนากันได้ทันที เช่น การพิมพ์ข้อความ หรือ ส่งในลักษณะของเสียง โดยผ่านบริการของ Chat room ส่วน Non Real-Time อาจไม่สามารถโต้ตอบบทสนทนาได้ทันที เช่น การส่งอีเมลล์ WebBoard ข้อความหรือบทสนทนาดังกล่าว จะถูกเก็บหรือฝากไว้กับระบบบริการ โดยผู้อื่นสามารถเข้ามาตอบบทสนทนาได้ภายหลัง
ตอบ ผู้ใช้แบบ Real-Time สามารถโต้ตอบบทสทนากันได้ทันที เช่น การพิมพ์ข้อความ หรือ ส่งในลักษณะของเสียง โดยผ่านบริการของ Chat room ส่วน Non Real-Time อาจไม่สามารถโต้ตอบบทสนทนาได้ทันที เช่น การส่งอีเมลล์ WebBoard ข้อความหรือบทสนทนาดังกล่าว จะถูกเก็บหรือฝากไว้กับระบบบริการ โดยผู้อื่นสามารถเข้ามาตอบบทสนทนาได้ภายหลัง
4. Virtual Classroom คืออะไร
ตอบ คือ ห้องเรียนเสมือนจริง หมายถึง การเรียนการสอนผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ของผู้เรียนเข้าไว้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการเครือข่าย (File Server) และคอมพิวเตอร์ผู้ให้บริการเว็บ (Web sever) เป็นการเรียนการสอนที่จะมีการนัดเวลาหรือไม่นัดเวลาก็ได้ และนัดสถานที่ นัดตัวบุคคล เพื่อให้เกิด การเรียนการสอน มีการกำหนดตารางเวลาหรือตารางสอน เข้าสู่กระบวนการเรียนการสอนพร้อมๆ กันหรือไม่พร้อมกัน มีการใช้สื่อการสอนทั้งภาพและเสียง ผู้เรียนสามารถร่วมกิจกรรมกลุ่มหรือตอบ โต้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้สอนหรือกับเพื่อนร่วมชั้นได้เต็มที่ (คล้าย chat room) ส่วนผู้สอน สามารถตั้งโปรแกรมติดตามพัฒนาการประเมินผลการเรียนรวมทั้งประสิทธิภาพของหลักสูตรได้ ทั้งนี้ ไม่จำกัดเรื่องสถานที่ เวลา (Any Where & Any Time) ของผู้เรียน
ในชั้นและผู้สอน
ตอบ คือ ห้องเรียนเสมือนจริง หมายถึง การเรียนการสอนผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ของผู้เรียนเข้าไว้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการเครือข่าย (File Server) และคอมพิวเตอร์ผู้ให้บริการเว็บ (Web sever) เป็นการเรียนการสอนที่จะมีการนัดเวลาหรือไม่นัดเวลาก็ได้ และนัดสถานที่ นัดตัวบุคคล เพื่อให้เกิด การเรียนการสอน มีการกำหนดตารางเวลาหรือตารางสอน เข้าสู่กระบวนการเรียนการสอนพร้อมๆ กันหรือไม่พร้อมกัน มีการใช้สื่อการสอนทั้งภาพและเสียง ผู้เรียนสามารถร่วมกิจกรรมกลุ่มหรือตอบ โต้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้สอนหรือกับเพื่อนร่วมชั้นได้เต็มที่ (คล้าย chat room) ส่วนผู้สอน สามารถตั้งโปรแกรมติดตามพัฒนาการประเมินผลการเรียนรวมทั้งประสิทธิภาพของหลักสูตรได้ ทั้งนี้ ไม่จำกัดเรื่องสถานที่ เวลา (Any Where & Any Time) ของผู้เรียน
ในชั้นและผู้สอน
5. Asychonous Learning คือรูปแบบการสอนโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในลักษณะใด
ตอบ รูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้สอนและผู้เรียนไม่จำเป็นต้องพบกันตามเวลาในตาราง
ที่กำหนดไว้ (Synchronous Learning) แต่ผู้สอนและผู้เรียนสามารถติดต่อกันได้ตลอดเวลา โดยใช้เครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา และสถานที่ ผู้เรียนสามารถเรียนที่ไหน เวลาใดก็ได้ (Anywhere Anytime) ซึ่ง Asynchronous Learning เป็นการใช้การสื่อสารระยะไกล
ที่กำหนดไว้ (Synchronous Learning) แต่ผู้สอนและผู้เรียนสามารถติดต่อกันได้ตลอดเวลา โดยใช้เครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา และสถานที่ ผู้เรียนสามารถเรียนที่ไหน เวลาใดก็ได้ (Anywhere Anytime) ซึ่ง Asynchronous Learning เป็นการใช้การสื่อสารระยะไกล
(Telecommunication) เพื่อช่วยให้การเรียนรู้มีลักษณะใกล้เคียงกับการเรียนในระบบห้องเรียนหรือ
การเรียนการสอนที่ผู้สอนกับผู้เรียนได้พบหน้ากัน (Face - to - Face Instruction)
6. Hypermedia คือเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาอะไร และนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร
ตอบ สื่อหลายมิติ ซึ่งมีความสามารถเพิ่มในการบรรจุข้อมูลในลักษณะของภาพเคลื่อนไหวแบบวิดีทัศน์ ภาพกราฟิคในลักษณะภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ภาพถ่าย เสียงพูด เสียงดนตรี เข้าไว้ในเนื้อหาด้วย สามารถนำมาใช้ประโยชน์ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาเรื่องราวในลักษณะต่างๆ ได้หลายรูปแบบกว่าเดิม
7. ให้นิสิตเขียนตารางเปรียบเทียบแนวโน้มเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาใน 3 ยุค
ข้อเปรียบเทียบ | แนวโน้มที่ 1 | แนวโน้มที่ 2 | แนวโน้มที่ 3 |
ลักษณะการสื่อสาร | การสื่อสารโดยใช้เสียง เพื่อสื่อสารระหว่างบุคคลสองคน ผ่านทางโทรศัพท์ | การสื่อสารโดยใช้ เสียงและภาพ ผ่านทางโทรทัศน์ โทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์ | การใช้เทคโนโลยี แบบสื่อผสม หรือ มัลติมีเดีย |
ประสิทธิภาพ ในการสื่อสาร | ปานกลาง | เริ่มมีประสิทธิภาพ | ประสิทธิภาพสูง |
ราคาของเทคโนโลยี | สูง | สูง | พัฒนาเพิ่มขึ้น แต่ราคาถูกลง |
8. ให้นิสิตสรุปประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษามา 5 ข้อ
ตอบ 1. ขยายโอกาสในการเรียนรู้ สำหรับโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่มีครูไม่เพียงพอ
2. เปิดโอกาสให้คนได้เรียนเพิ่มขึ้น คนทำงานก็สามารถเรียนได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายมาก
3. สร้างแรงจูงใจในการเรียน ผู้เรียนมีอิสระในการเรียน
4. สามารถจัดเวลาการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. ทำให้ผู้เรียนมีความรู้ด้านสารสนเทศเพิ่มขึ้น ได้มีโอกาสศึกษาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ บนคอมพิวเตอร์และบนเครือข่ายต่างๆ ไปพร้อมๆ กับการเรียน
9. Tablet PC คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรต่อการศึกษา และตามนโยบายของรัฐบาลได้ระบุว่าจะแจกให้กับนักเรียนนั้นนิสิตคิดว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตุใด
ตอบ Tablet PC คือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คประเภทหนึ่ง เพียงแต่ไม่มีคีย์บอร์ด ไม่มีเมาส์
โดยจะรับคำสั่งจากระบบสัมผัสบนหน้าจอแทน สามารถใช้งานโปรแกรมงานต่างๆและเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้เหมือนกับโน้ตบุ๊คทั่วไป
ปัจจุบันเริ่มมีการนำ Tablet PC มาใช้กับวงการศึกษา ด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือเรียนในแต่ละปี เป็นการลงทุนเพียงแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นก็สามารถใช้ Tablet PC ในการเรียนได้ตลอด สามารถเรียนรู้ รับรู้ข่าวสาร ได้ทันสมัยที่สุดและรวดเร็วที่สุด จากการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ไม่เหมือนกับหนังสือเรียนที่ไม่สามารถจะแก้ไขเรื่องราวที่พิมพ์ลงไปแล้ว ให้ทันสมัยได้ นักเรียนไม่ต้องนำสมุดและหนังสือไปเรียนเป็นจำนวนมาก เพราะเนื้อหาบทเรียน ข้อมูลทั้งหมดจะรวมอยู่เพียงเครื่องนี้เครื่องเดียว ครูและนักเรียนยังสามารถติดต่อแลกเปลี่ยนงาน การบ้าน ข่าวสาร กันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว อีกทั้ง นักเรียนยังสามารถเรียนรู้เนื้อหาบทเรียนได้ ด้วยสื่อมัลติมีเดียต่างๆ เพื่อเข้าใจในบทเรียนมาขึ้น และเป็นการสร้างแรงจูงใจในการเรียนได้อีกทางหนึ่ง
และตามนโยบายของรัฐบาลที่ระบุว่าจะแจกให้กับนักเรียนไทยนั้น ฉันคิดว่า ในเวลานี้ยังไม่เหมาะสม เพราะมีสาเหตุหลายประการที่ระบบการศึกษาไทยนั้นยังไม่พร้อมกับการใช้งานดังกล่าว คือ
โดยจะรับคำสั่งจากระบบสัมผัสบนหน้าจอแทน สามารถใช้งานโปรแกรมงานต่างๆและเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้เหมือนกับโน้ตบุ๊คทั่วไป
ปัจจุบันเริ่มมีการนำ Tablet PC มาใช้กับวงการศึกษา ด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือเรียนในแต่ละปี เป็นการลงทุนเพียงแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นก็สามารถใช้ Tablet PC ในการเรียนได้ตลอด สามารถเรียนรู้ รับรู้ข่าวสาร ได้ทันสมัยที่สุดและรวดเร็วที่สุด จากการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ไม่เหมือนกับหนังสือเรียนที่ไม่สามารถจะแก้ไขเรื่องราวที่พิมพ์ลงไปแล้ว ให้ทันสมัยได้ นักเรียนไม่ต้องนำสมุดและหนังสือไปเรียนเป็นจำนวนมาก เพราะเนื้อหาบทเรียน ข้อมูลทั้งหมดจะรวมอยู่เพียงเครื่องนี้เครื่องเดียว ครูและนักเรียนยังสามารถติดต่อแลกเปลี่ยนงาน การบ้าน ข่าวสาร กันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว อีกทั้ง นักเรียนยังสามารถเรียนรู้เนื้อหาบทเรียนได้ ด้วยสื่อมัลติมีเดียต่างๆ เพื่อเข้าใจในบทเรียนมาขึ้น และเป็นการสร้างแรงจูงใจในการเรียนได้อีกทางหนึ่ง
และตามนโยบายของรัฐบาลที่ระบุว่าจะแจกให้กับนักเรียนไทยนั้น ฉันคิดว่า ในเวลานี้ยังไม่เหมาะสม เพราะมีสาเหตุหลายประการที่ระบบการศึกษาไทยนั้นยังไม่พร้อมกับการใช้งานดังกล่าว คือ
1. ในปัจจุบัน นักเรียนไทยมีปัญหาเรื่องของการติดเกมส์คอมพิวเตอร์ และการติดต่อสื่อสารในโลกสังคมออนไลน์ ถ้าแจก Tablet PC ให้กับนักเรียนตอนนี้ จุดประสงค์เพื่อการศึกษาก็คงคลาดเคลื่อนไป
2. ครูและนักเรียนส่วนหนึ่ง ยังไม่มีความพร้อมที่จะใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในการเรียนรู้การใช้งาน Tablet PC ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ จากชั่วโมงที่ต้องสอนเนื้อหาวิชาประวัติศาสตร์ ก็อาจกลายเป็นชั่วโมงสอนการใช้งาน Tablet PC ไป ภาษาที่มากับระบบปฏิบัติการของเครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นภาษาอังกฤษ ก็ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการใช้เพื่อการเรียนรู้ได้
3. ราคา Tablet PC ในประเทศไทย ปัจจุบันนี้ ถือว่ายังค่อนข้างสูงอยู่ ถ้าหากแจกให้กับนักเรียนทุกคน โดยเริ่มตั้งแต่เด็กประถม ซึ่งเด็กบางคนอาจจะยังไม่สามารถรับผิดชอบของราคาแพงได้ อาจเกิดปัญหาการสูญหายหรือถูกลักขโมย และอีกเรื่องหนึ่งคือ ถ้า Tablet PC ของนักเรียนคนใดคนหนึ่งชำรุด หรือมีปัญหาในระหว่างภาคเรียน และฐานะครอบครัวของเด็กคนนั้นไม่สามารถที่จะหาเครื่องใหม่มาให้เด็กใช้ได้ ปัญหาก็จะเกิดขึ้นคือ เด็กไม่สามารถที่จะเรียนรู้ได้เหมือนเพื่อน งานที่บันทึกไว้ก็ไม่มีส่งครู ไม่มีเนื้อหาบทเรียนให้ทบทวน เสียโอกาสทางการเรียน ซึ่งไม่เหมือนกับหนังสือเรียน ที่สามารถหาซื้อใหม่ได้ในราคาที่ไม่แพงมากนัก
10. ให้เขียนความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง Tablet PC , IPAD และ Notebook
| Tablet PC | IPAD | Notebook |
ความเหมือน | - Windows XP , Windows Vista , Windows 7 - โปรแกรมเวิร์ด เอ็กเซลล์ การใช้งานอินเตอร์เน็ต | - Windows XP , Windows Vista , Windows 7 - โปรแกรมเวิร์ด เอ็กเซลล์ การใช้งานอินเตอร์เน็ต | - Windows XP , Windows Vista , Windows 7 - โปรแกรมเวิร์ด เอ็กเซลล์ การใช้งานอินเตอร์เน็ต |
ความแตกต่าง | - ไม่มีคีย์บอร์ดและใช้ ระบบหน้าจอสัมผัส | - ไม่มีคีย์บอร์ดและใช้ระบบ หน้าจอสัมผัส - ระบบปฏิบัติการ iPhone OS | - ใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ ในการทำงาน |
11. เครือข่ายสังคมออนไลน์คืออะไร นำมาประยุกต์ใช้กับการศึกษาได้หรือไม่ อย่างไร
ตอบ เป็นผลมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีและเว็บรูปแบบใหม่ ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานในอินเทอร์เน็ต สามารถสร้างเครือข่ายสังคมได้ โดยเขียนและอธิบายความสนใจ รวมถึงกิจกรรมที่ได้ทำ และเชื่อมโยงกับความสนใจและกิจกรรมของผู้อื่น รวมทั้งข้อมูลส่วนตัว บทความรูปภาพผลงาน พบปะ แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรือความสนใจร่วมกัน และกิจกรรมอื่นๆ รวมไปถึงเป็นแหล่งข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ผู้ใช้สามารถช่วยกันสร้างเนื้อหาขึ้นได้ตามความสนใจของแต่ละบุคคลหรือกลุ่มบุคคล สู่สาธารณะ หรือจำกัดสิทธิ์เฉพาะบุคคลที่ อยู่ในสังคมเสมือนของตน
เครือข่ายสังคมออนไลน์ สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการศึกษาได้ คือ อาจมีการสร้าง Website, WebBlog, WebBoard สำหรับการเรียนการสอน หรือใช้ในการแลกเปลี่ยนข่าวสาร เนื้อหาบทเรียน สอบถามการบ้าน ช่วยกันติวหนังสือได้ นักเรียนก็สามารถเรียนรู้ทบทวนบทเรียนอยู่ที่บ้านได้ โดยไม่ต้องออกนอกบ้าน เดินทางไปติวหนังสือกับครูหรือเพื่อนๆ ทั้งสะดวก รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย และปลอดภัย
เครือข่ายสังคมออนไลน์ สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการศึกษาได้ คือ อาจมีการสร้าง Website, WebBlog, WebBoard สำหรับการเรียนการสอน หรือใช้ในการแลกเปลี่ยนข่าวสาร เนื้อหาบทเรียน สอบถามการบ้าน ช่วยกันติวหนังสือได้ นักเรียนก็สามารถเรียนรู้ทบทวนบทเรียนอยู่ที่บ้านได้ โดยไม่ต้องออกนอกบ้าน เดินทางไปติวหนังสือกับครูหรือเพื่อนๆ ทั้งสะดวก รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย และปลอดภัย
12. เครือข่ายสังคมออนไลน์ในลักษณะการเผยแพร่ตัวตนคืออะไร ให้ยกตัวอย่างมา 2 เครือข่าย
ตอบ เป็นเว็บไซต์ที่ใช้สำหรับนำเสนอตัวตน และเผยแพร่เรื่องราวของตนเองทางอินเตอร์เน็ต หรือผู้ใช้สามารถเขียน blog สร้างอัลบั้มรูปของตัวเอง สร้างกลุ่มเพื่อนในห้องเรียน และสร้างเครือข่ายเพื่อการเรียนรู้ขึ้นมาได้ ตัวอย่างเช่น hi5.com, facebook.com เป็นต้น
13. เครือข่ายสังคมออนไลน์ในลักษณะการเผยแพร่ผลงานคืออะไร ให้ยกตัวอย่างมา 2 เครือข่าย
ตอบ เป็นเว็บไซต์ที่ใช้ในการนำเสนอผลงานของตัวเอง ผลงานของกลุ่ม ได้ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวีดีโอ รูปภาพ หรือเสียงอาจารย์สอนที่ได้จากการบันทึกในชั้นเรียน เป็นต้น ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทนี้เช่น YouTube.com, Yahoo VDO เป็นต้น
14. เครือข่ายสังคมออนไลน์ในลักษณะกลุ่มที่มีความสนใจตรงกันคืออะไร ให้ยกตัวอย่างมา 2 เครือข่าย
ตอบ มีลักษณะเป็น Online Bookmarking หรือ Social Bookmarking โดยมีแนวคิดว่า แทนที่เราจะทำ Bookmark (เหมือนกับเราคั่นหนังสือ) เว็บที่เราชอบ หรือบทความรายงานที่เกี่ยวข้องกับการเรียน เก็บไว้ในเครื่องของเราคนเดียว สู้เรา Bookmark เก็บไว้บนเว็บจะดีกว่า เพื่อจะได้แบ่งให้เพื่อนๆ คนอื่นดูได้ด้วย และเราก็จะได้รู้ด้วยว่าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมาก เป็นที่น่าสนใจ โดยดูได้จากจำนวน
ตัวเลขที่เว็บไซต์นั้นถูก Bookmark เอาไว้จากสมาชิกคนอื่นๆ ตัวอย่างเว็บไซต์นี้ ได้แก่ Digg, Zickr เป็นต้น
ตัวเลขที่เว็บไซต์นั้นถูก Bookmark เอาไว้จากสมาชิกคนอื่นๆ ตัวอย่างเว็บไซต์นี้ ได้แก่ Digg, Zickr เป็นต้น
15. เครือข่ายสังคมออนไลน์ในลักษณะทำงานร่วมกันคืออะไร ให้ยกตัวอย่างมา 2 เครือข่าย
ตอบ เป็นกลุ่ม SNS (Social Network Service) ที่เปิดให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มเข้ามานำเสนอข้อมูล ความคิดหรือต่อยอด เรื่องราวต่างๆ ได้ ตัวอย่างเว็บไซต์นี้ได้แก่ WikiPedia เป็นสารานุกรมต่อยอด ที่อนุญาตให้ใครก็ได้เข้ามาช่วยกันเขียน และแก้ไขบทความต่างๆ ได้ตลอดเวลา ทำให้เกิดเป็นสารานุกรมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่รวบรวมความรู้ ข่าวสาร และเหตุการณ์ต่างๆ ไว้มากมาย Google Maps สามารถสร้างแผนที่ของตัวเอง หรือแชร์แผนที่ให้คนอื่นได้ด้วย จึงทำให้มีสถานที่สำคัญ หรือสถานที่ต่างๆ ถูกปักหมุดเอาไว้ พร้อมกับข้อมูลของสถานที่นั้นๆ ไว้แสดงผลจากการค้นหาได้อีกด้วย
ตอบ เป็นกลุ่ม SNS (Social Network Service) ที่เปิดให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มเข้ามานำเสนอข้อมูล ความคิดหรือต่อยอด เรื่องราวต่างๆ ได้ ตัวอย่างเว็บไซต์นี้ได้แก่ WikiPedia เป็นสารานุกรมต่อยอด ที่อนุญาตให้ใครก็ได้เข้ามาช่วยกันเขียน และแก้ไขบทความต่างๆ ได้ตลอดเวลา ทำให้เกิดเป็นสารานุกรมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่รวบรวมความรู้ ข่าวสาร และเหตุการณ์ต่างๆ ไว้มากมาย Google Maps สามารถสร้างแผนที่ของตัวเอง หรือแชร์แผนที่ให้คนอื่นได้ด้วย จึงทำให้มีสถานที่สำคัญ หรือสถานที่ต่างๆ ถูกปักหมุดเอาไว้ พร้อมกับข้อมูลของสถานที่นั้นๆ ไว้แสดงผลจากการค้นหาได้อีกด้วย
16. Tablet มีประโยชน์อย่างไรในวงการศึกษา
ตอบ 1. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือ ตำราเรียน
2. ได้ข้อมูลในหนังสือ ตำราเรียน ที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา เพราะสามารถอัพเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
2. ได้ข้อมูลในหนังสือ ตำราเรียน ที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา เพราะสามารถอัพเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
3. นักเรียน นักศึกษา ไม่ต้องถือหนังสือเรียนจำนวนมากไปเรียนให้เป็นภาระ
4. สามารถสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตได้สะดวกรวดเร็วในขณะเรียน
5. เรียนโดยใช้สื่อมัลติมีเดียได้หลากหลาย
6. ครูและนักเรียน สามารถติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก รวดเร็ว ทั้งเรื่องงาน การบ้าน และข้อมูลข่าวสารต่างๆ
7. เพิ่มความสนใจ สร้างแรงจูงใจในการเรียนได้มากขึ้น
4. สามารถสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตได้สะดวกรวดเร็วในขณะเรียน
5. เรียนโดยใช้สื่อมัลติมีเดียได้หลากหลาย
6. ครูและนักเรียน สามารถติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก รวดเร็ว ทั้งเรื่องงาน การบ้าน และข้อมูลข่าวสารต่างๆ
7. เพิ่มความสนใจ สร้างแรงจูงใจในการเรียนได้มากขึ้น